ข่าวประชาสัมพันธ์

(ข่าวที่111/2564)DSSPO Talk Series 1 : วศ. เปิดเวทีสร้างความเข้าใจ การดำเนินงานจัดตั้งองค์การมหาชน

 
A3 1 A3 2
A3 3 A3 4

วันที่ 28 มิถุนายน 2564 นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) เป็นประธานเปิดเวทีสนทนา DSSPO Talk Series ครั้งที่ 1 ประเด็น “การดำเนินงานจัดตั้งองค์การมหาชนและการถ่ายโอนบุคลากร” โดยมี ดร.พจมาน ท่าจีน ผู้อำนวยการกองบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ และประธานคณะกรรมการจัดทำแผนบริหารบุคลากร วศ. กล่าวรายงาน เพื่อเตรียมจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์บริการ (องค์การมหาชน) ร่วมเสวนาผ่านระบบ Zoom และ Facebook live ณ. ห้องประชุม อัครเมธี ชั้น 6 อาคาร ดร.ตั้ว ลพานุกรม
วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพื่อให้บุคลากรของ วศ. มีความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการปรับบทบาทและหน้าที่สู่องค์การมหาชน โดยมีประเด็นการสื่อสาร ได้แก่
- ขั้นตอนในการจัดตั้งองค์การมหาชน
- กลไกการทำงานการจัดทำข้อเสนอจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์บริการ (องค์การมหาชน)
- Timeline and Milestone การปฏิรูป วศ.
- ร่างข้อเสนอแนวทางการบริหารจัดการบุคลากร วศ.
- การบริหารจัดการบุคลากรเพื่อเตรียมการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์บริการ (องค์การมหาชน)
ทั้งนี้ DSSPO Talk Series กำหนดจัดขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 เพื่อให้ทุกคนสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารไปพร้อมกันอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงพร้อมรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์บริการ (องค์การมหาชน) ในอนาคต สามารถติดตามข้อมูลย้อนหลังได้ที่ Facebook live กลุ่ม DSSNEWS พร้อมข่าวสารการจัดกิจกรรม DSSPO Talk Series ได้ต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข่าว /ภาพ : พิพัฒน์ ดียอดยิ่ง

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่110/2564)วศ.อว. ลงนามสัญญาร่วมกับเอกชน ถ่ายทอดเทคโนโลยีแปรรูปอาหาร มุ่งยกระดับผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์

 

A2 4

       วันที่ 22 มิถุนายน 2564 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ลงนามสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยีของกองเทคโนโลยีชุมชน ระหว่าง กรมวิทยาศาสตร์บริการ กับ บริษัท อัสนันท์ (ประเทศไทย) จำกัด และผู้ประกอบการจากจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากปลายข้าวไขมันต่ำอบกรอบด้วยไมโครเวฟ และผลิตภัณฑ์ไส้กรอกโปรตีนจากพืช เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ โดยมี นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ และผู้ประกอบการ ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือฯ ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom) ณ ห้องอัครเมธี ชั้น 6 อาคาร ดร.ตั้ว ลพานุกรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ

A2 6 A2 2


      นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงดังกล่าว ประกอบด้วย 2 เทคโนโลยี ได้แก่ 1).“เทคโนโลยีกระบวนการผลิตขนมขบเคี้ยวจากปลายข้าวไขมันต่ำอบกรอบด้วยไมโครเวฟ” เดิมผลิตภัณฑ์ฯ ส่วนใหญ่มีเนื้อสัมผัสที่แข็งกระด้าง ไม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค วศ. จึงได้วิจัยปรับปรุงลักษณะเนื้อสัมผัสของขนมขบเคี้ยวจากปลายข้าวโดยศึกษาขนาดอนุภาคปลายข้าวบดและชนิดของไฮโดรคอลลอยด์ ต่อคุณภาพและการเปลี่ยนแปลงเนื้อสัมผัส เพื่อให้ผลิตภัณฑ์พอง กรอบร่วน และอบกรอบได้ด้วยไมโครเวฟ 2).“เทคโนโลยีกระบวนการผลิตไส้กรอกโปรตีนจากพืช” (Plant-based) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโปรตีนถั่ว ธัญพืช รวมถึงพืชตระกูลเห็ด เป็นต้น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารเพื่อใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง พลังงานต่ำ และมีไขมันดี (High-Density Lipoprotein : HDL) สูงกว่าไส้กรอกที่ผลิตจากเนื้อสัตว์ อีกทั้งมีเส้นใยธรรมชาติจากพืชตระกูลส้มทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ (emulsifier) ช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่มีเนื้อแน่นและเนียนขึ้น

 

A2 5 A2 3


       อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่เทคโนโลยีจากงานวิจัยและพัฒนาโดย วศ. ตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการนำองค์ความรู้ไปขยายผล และต่อยอดจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงยกระดับกระบวนการผลิตให้เป็นเชิงพาณิชย์เพื่อส่งออกทั้งในและต่างประเทศสร้างความยั่งยืนให้กิจการและชุมชนต่อไป
       

         นายกมลไท อิทธิถาวร ผู้ประกอบการ บริษัท อัสนันท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทขอขอบคุณ วศ. สำหรับเทคโนโลยีทั้ง 2 งานวิจัย ถือเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทจะนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ได้รับไปพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ โดยจะประยุกต์กับวัตถุดิบจากแหล่งเกษตรในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่โจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพเน้นทานธัญพืชและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ต่อไป


       ทั้งนี้ วศ. มุ่งมั่นศึกษา วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียด ได้ที่ โทร.02 201 7000 และ www.dss.go.th

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข่าว : จิตลดา คณีกุล/พิพัฒน์ ดียอดยิ่ง   ภาพ : เอกพจน์ เกลี้ยงงาม

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่109/2564)วศ.จัดเวทีสนทนา เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ “องค์กรนวัตกรรม (Innovation Organization)”

 

A1 4 A1 3

A1 2 A1 1

       วันที่ 22 มิถุนายน 2564 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) จัดกิจกรรมสนทนาประสา วศ. ครั้งที่ 211 เรื่อง “องค์กรนวัตกรรม (Innovation Organization)” โดย นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นประธานเปิดเวทีสนทนาพร้อมกล่าวต้อนรับ ดร.ชัยธร ลิมาภรณ์วณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์นวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ วศ. ทุกคน ผ่านระบบ Zoom และ Facebook live กลุ่ม DSS News ณ ห้องประชุมอัครเมธี ชั้น 6 อาคาร ดร.ตั้ว ลพานุกรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ
      “นวัตกรรมองค์กร” คือ แนวทางการบริหารจัดการองค์กร โดยมุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพองค์กรให้สามารถพัฒนา “นวัตกรรม” ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่การเป็น “องค์กรนวัตกรรม” ซึ่งต้องเริ่มจากการสร้างศักยภาพของ “นวัตกรรมองค์กร” ได้แก่ องค์กรต้องมียุทธศาสตร์นวัตกรรมที่ชัดเจนและนำไปสู่การปฏิบัติจริง องค์กรต้องมีกระบวนการนวัตกรรมที่ชัดเจน ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือองค์กรต้องมีการจัดการทรัพยากรและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อนวัตกรรม ซึ่งนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจหรือผู้ประกอบการ ในด้านของการเพิ่มผลิตภาพ การขยายตลาด และการหาโอกาสใหม่อีกด้วย
​     ทั้งนี้ วศ. ส่งเสริมการสร้างความรู้ความเข้าใจ แก่บุคคลากร ในการจัดการวัฒนธรรมองค์กร เพื่อปลูกฝังค่านิยมการพัฒนาและปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานร่วมกัน และสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งการแสวงหาความรู้ใหม่จากภายนอกองค์กร การถ่ายทอด แบ่งปัน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของบุคลากรที่จะเกิดประโยชน์ต่อองค์กร ด้วยความร่วมมือจากบุคลากรเพื่อพัฒนาเพื่อให้ วศ. เป็นองค์กรนวัตกรรมในอนาคตต่อไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข่าว : พิพัฒน์ ดียอดยิ่ง   ภาพ : เอกพจน์ เกลี้ยงงาม

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่108/2564)วศ. ทดสอบชิมเครื่องดื่มเพื่อการผ่อนคลาย และทดลองใช้สเปร์ยแป้งเย็น สำหรับบุคลากรทางการแพทย์

 

D12 1 D12 2

D12 3 D12 4

        วันที่ 16 มิถุนายน 2564  นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ พร้อมด้วยนางสาวนีระนารถ แจ้งทอง รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ ร่วมทดสอบทางประสาทสัมผัส (ทดสอบชิม) เครื่องดื่มผสมสารสกัดกัญชง "เครื่องดื่มเพื่อการผ่อนคลาย" และทดลองใช้ สเปร์ยแป้งเย็น สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติงานโดยสวมชุด PPE ซึ่งเป็นผลงานวิจัยพัฒนาของกลุ่มงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป และกลุ่มวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร กองเทคโนโลยีชุมชน เพื่อนำผลการทดลองมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานและคุณภาพมากยิ่งขึ้น และนำไปถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กลุ่มเป้าหมายต่อไป ณ ห้องอัครเมธี ชั้น 6 อาคาร ดร.ตั้ว ลพานุกรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข่าว /ภาพ : พิพัฒน์ ดียอดยิ่ง

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

(ข่าวที่107/2564)วศ. พัฒนาห้องปฏิบัติการทดสอบด้านคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร การวัดค่า Moisture, Protein and Ash in Rice powder

   D10 4 D10 3

D10 1 D10 2

     วันที่ 14 มิถุนายน 2564 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) โดย กลุ่มทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ กองความสามารถห้องปฏิบัติการและรับรองผลิตภัณฑ์ จัดกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ (Proficiency Testing: PT) โดยดำเนินการจัดส่งตัวอย่างข้าว เพื่อให้ห้องปฏิบัติการดำเนินการทดสอบผลการวัด ในรายการ Moisture, Protein and Ash in Rice powder และส่งผลกลับมายังกลุ่มทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 เพื่อประเมินผลทางสถิติเปรียบเทียบผลการวัดระหว่างห้องปฏิบัติการต่อไป โดยมีห้องปฏิบัติการที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการภายในประเทศ จำนวน 21 ห้องปฏิบัติการ


        ข้าว เป็นธัญพืชที่เป็นอาหารหลักของประชากรในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย แบ่งตามลักษณะเมล็ดได้เป็น 2 ประเภท คือ ข้าวเจ้า และ ข้าวเหนียว โดยเมล็ดข้าวเจ้าประกอบด้วยแป้งอะไมโลส (Amylose) ประมาณร้อยละ 15-30 ส่วนเมล็ดข้าวเหนียวประกอบด้วยแป้ง
อะไมโลเพคติน (Amylopectin) เป็นส่วนใหญ่ และมีแป้งอะไมโลส (Amylose) ประมาณร้อยละ 5-7 การวิเคราะห์รายละเอียดของปริมาณสารอาหารของข้าวที่แสดงให้เห็นว่าคุณค่าทางโภชนาการของข้าวแตกต่างกันไปนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ สายพันธุ์ข้าวในส่วนต่างๆ ของโลก นอกจากนี้คุณภาพของสารอาหารข้าวจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ปลูกข้าว และวิธีการแปรรูปข้าวก่อนที่จะบริโภค ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยที่เป็นเหมือนแหล่งพลังงาน มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน และสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็น รวมทั้งให้การสัมผัสด้านอื่น ๆ อย่างเช่น ความหอม รสชาติ และเนื้อสัมผัสของข้าวแต่ละชนิดที่แตกต่างกัน ตัวอย่างข้าวแบ่งตามการขัดสี เช่น (1) ข้าวขาว ลักษณะของเมล็ดข้าวสีขาว เรียวยาวตลอดเมล็ด เมื่อหุงสุกจะค่อนข้างร่วน เรียงเม็ด ข้าวขาวนั้นมีหลายพันธุ์ให้เลือก นอกจากนี้ยังเป็นข้าวที่สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ดีอีกด้วย ข้าวขาว คือข้าวที่ขัดสีเปลือกรำและจมูกข้าวออก สิ่งนี้จะเปลี่ยนรสชาติเนื้อสัมผัสและลักษณะของข้าว และช่วยป้องกันการเน่าเสีย ยืดอายุการเก็บรักษา และทำให้ย่อยง่ายขึ้น ข้าวที่ขัดสีทำให้ได้เมล็ดข้าวที่มีลักษณะสีขาวใสแวววาว เนื่องจากข้าวขาวเป็นข้าวที่ถูกขัดสีออกไปมาก และสิ่งที่ถูกขัดออกไปนั้นก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็จะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ได้รับจากแป้งล้วนๆ เน้นให้พลังงาน (2) ข้าวกล้อง เป็นข้าวที่สีเอาแค่ส่วนเปลือก (แกลบ) ออกเท่านั้น โดยยังมีจมูกข้าวและเยื้อหุ้มเมล็ดข้าว (รำ) ติดอยู่ และส่วนนี้ที่ทำให้ข้าวกล้องมีประโยชน์ด้านโภชนาการสูงกว่าข้าวที่สีจนขาวชนิดอื่น ๆบางคนเรียกข้าวชนิดนี้ว่าข้าวซ้อมมือเนื่องจากสมัยก่อนกระบวนการผลิตข้าวกล้องนั้นทำเพื่อรับประทานกันแค่ในครัวเรือนเท่านั้น โดยการตำข้าว (สีข้าว) ด้วยมือ ทำให้ข้าวที่ได้ออกมาเป็นสีน้ำตาลอมแดง หุงสุกแล้วมีความกรุบ ๆ เล็กน้อย เนื่องจากเยื้อหุ้มเมล็ดที่ยังคงอยู่ ข้าวกล้อง ไม่ใช่พันธุ์ข้าว แต่เป็นเพียงหนึ่งกระบวนการในการแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสารเท่านั้น ข้าวกล้องมีโปรตีนและเส้นใยอาหารอยู่จำนวนมาก ช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวก ท้องไม่ผูก แถมยังอิ่มท้องได้นานอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีตัวอย่างข้าวที่แบ่งตามชนิดของข้าว ได้แก่ (1) ข้าวหอมมะลิ ลักษณะเมล็ดเรียวยาว มีสีขาวนวลเหมือนสีของดอกมะลิตลอดทั้งเมล็ด เมื่อหุงสุกใหม่ ๆ จะนุ่มมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้ายกับกลิ่นของใบเตย ข้าวหอมมะลิมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 77% และโปรตีน 8% (2) ข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีสารที่ชื่อว่าโพลิฟีนอล ช่วยทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของข้าวชนิดนี้ มีดัชนีน้ำตาลที่ค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล (3) ข้าวญี่ปุ่น ลักษณะของข้าวญี่ปุ่นนั้นเมล็ดข้าวมีความสั้นและค่อนข้างกลม มีสีขาวขุ่น ไม่มันวาว เมื่อหุงสุกแล้วจะมีความเหนียว จับตัวเป็นก้อนได้ดี ทำให้สามารถใช้ตะเกียบคีบข้าวได้เป็นคำ ๆ อย่างง่ายดาย ข้าวญี่ปุ่นยังถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย ประโยชน์ของข้าวญี่ปุ่นนอกจากโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เส้นใยอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่มีในข้าวญี่ปุ่นแล้ว ส่วนของจมูกข้าวญี่ปุ่นนั้นก็มีประโยชน์ไม่แพ้กันเพราะมีสารกาบา (Gaba – gamma aminobutyric acid) ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ


      วศ. ได้สนับสนุนผู้ประกอบการที่ทำการทดสอบคุณภาพด้านอาหารและอาหารสัตว์ โดยจัดกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ สาขาอาหาร รายการ Moisture, Protein and Ash in Rice powder เป็นการประเมินสมรรถนะและพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการด้านการทดสอบคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร เพื่อให้ได้ผลการทดสอบเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นประโยชน์ของการเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ ในการประเมินความสามารถของห้องปฏิบัติการและติดตามความต่อเนื่องของความสามารถของห้องปฏิบัติการ รวมทั้งระบุปัญหาภายในห้องปฏิบัติการ อันจะนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขต่อไป เช่น ปัญหาที่เกิดจากกระบวนการวัดหรือทดสอบ หรือความสามารถของเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เป็นต้น โดยเป็นการประกันคุณภาพผลการทดสอบอย่างหนึ่งของห้องปฏิบัติการทดสอบในการรับรองระบบคุณภาพตามมาตรฐาน ISO/IEC17025 ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในผลการทดสอบว่ามีความแม่นยำถูกต้อง และเป็นที่ยอมรับทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ทั้งในและต่างประเทศ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข่าว : จิตลดา คณีกุล ภาพ : เอกพจน์ เกลี้ยงงาม

ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2210 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctorD/

  1. (ข่าวที่106/2564)วศ.อว. มอบหุ่นยนต์ “ปิ่นโต 2” ให้กับ รพ.สนาม จ.สมุทรปราการ ลดความเสี่ยงระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ติดเชื้อโควิด-19
  2. (ข่าวที่105/2564)อธิบดีกรมวิทย์ฯบริการ ตรวจเยี่ยมหน่วยฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ มจธ.
  3. (ข่าวที่104/2563)วศ.อว.โชว์ผลงาน Eco Friendly Products จากกัญชง พืชเศรษฐกิจใหม่ ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์อาเซียนครั้งที่ 11
  4. (ช่าวที่103/2564)“ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่” กฎหมายและ พรบ. ที่บุคลากร วศ.อว. ควรรู้
  5. (ข่าวที่102/2564)วศ.อว. มอบหุ่นยนต์ “ปิ่นโต 2” ให้กับ 3 หน่วยงานของกรมราชทัณฑ์ ลดความเสี่ยงระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19
  6. (ข่าวที่101/2564)อธิบดีกรมวิทย์ฯ สร้างความเข้าใจบุคลากรในสังกัดชี้แจงแนวทางปฏิบัติและการสื่อสารในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 สอดคล้องแผน BCP ผ่านระบบ Zoom และ Facebook live
  7. (ข่าวที่100/2564)อธิบดี วศ. ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
  8. (ข่าวที่99/2564)อธิบดีกรมวิทย์ฯบริการต้อนรับรองนายกฯ “จุรินทร์” ตรวจเยี่ยม รพ.สนามบ้านวิทย์ฯเพื่อคนพิการ พร้อมสนับสนุนหุ่นยนต์ "ปิ่นโต2” ขนส่งอาหาร เวชภัณฑ์ ช่วยเพิ่มระยะห่างและป้องกันการติดเชื้อระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเปิดบริการ 1มิ.ย.นี
  9. (ข่าวที่98/2564)วศ.พัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการด้านการทดสอบวัสดุสัมผัสอาหาร การวัดค่า Residue substances of PP Plastic film from evaporated in 4% (v/v) acetic acid (ASEAN PROGRAM) (pilot study)
  10. (ข่าวที่97/2564)วศ. อว. ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์สนับสนุนการใช้ประโยชน์ในโรงพยาบาลสนามของ อว.