กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำผลงานคอนกรีตแห้งสำเร็จรูปสำหรับสภาพแวดล้อมทางทะเล และผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดแปรรูป เข้าร่วมจัดนิทรรศการภายในงาน FTI Expo 2022 วันที่ 29 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยผลงานดังกล่าวได้รับการวิจัยและพัฒนาจากนักวิทยาศาสตร์ วศ. ร่วมกับเอกชน สามารถนำไป ต่อยอดเชิงการค้าได้เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานฯ “BCG Creative Economy” ทั้งยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทภารกิจและผลงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ของ วศ. ให้กับผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในภูมิภาค โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานพร้อมเยี่ยมชมผลงานของภาครัฐและเอกชน
    สำหรับผลงานเด่นของ วศ. ที่นำมาจัดแสดงภายในงานครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนาต่อยอดโดยนักวิทยาศาสตร์ วศ. ร่วมกับภาคเอกชน สามารถนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ "คอนกรีตแห้งสำเร็จรูปสำหรับสภาพแวดล้อมทางทะเล" ซึ่งคิดค้นพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ ของ วศ. ร่วมมือกับทีมนักวิจัย บริษัท ยูบาว (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนาและออกแบบสูตรคอนกรีตให้มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมทางทะเล และนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์คอนกรีตแห้งสำเร็จรูปสำหรับสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่สามารถผสมน้ำและใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมทรายและหินเพิ่ม สามารถนำไปใช้งานได้อย่างสะดวกและเหมาะสำหรับงานคอนกรีตขนาดเล็กที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายของสิ่งก่อสร้างอันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมทางทะเล นอกจากนี้ผลงานดังกล่าว ยังได้รับรางวัล Bronze Award ภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2564 โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) อีกทั้งนำไปต่อยอดสู่เชิงการค้าการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้จริง รวมถึงการจัดทำเกณฑ์การทดสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจนได้รับการประกาศเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมคอนกรีตแห้งสำเร็จรูปสำหรับสภาพแวดล้อมทางทะเล
    “ผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดแปรรูป” เป็นผลงานผลิตภัณฑ์ที่นักวิทยาศาสตร์ วศ. ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาเชิงลึกและแนะนำแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการกลุ่มสหกิจชุมชน และสยามเทคฟาร์ม ที่มีความต้องการให้ วศ. ช่วยพัฒนาสูตรเส้นสปาเก็ตตี้ เส้นพาสต้า ฯลฯ ที่มีจิ้งหรีดเป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากพัฒนามาหลายครั้งแต่ไม่เกิดผลสำเร็จ ซึ่ง วศ. เล็งเห็นว่าการวิจัยพัฒนานวัตกรรมอาหารอนาคตโดยเฉพาะอาหารโปรตีนทางเลือก ตลอดจนการศึกษาอัตลักษณ์ด้านรสชาติพืชอาหารไทยจะเป็นการสนับสนุนการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยให้มีความโดดเด่นด้านรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภค จึงคิดค้นพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากจิ้งหรีดให้ได้รับมาตรฐาน คุณภาพดี โปรตีนสูง รสชาติ ไม่เปลี่ยนหลังจากใส่บรรจุภัณฑ์ และเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อไปปรับสูตรและวิเคราะห์ค่าโภชนาการต่างๆ ในห้องปฏิบัติการเพื่อผลักดันธุรกิจอาหารของประเทศให้เข้มแข็ง เติบโตอย่างยั่งยืนสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
       ทั้งนี้ ผู้ประกอบการภาครัฐ ภาคเอกชนที่สนใจต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ กรมวิทยาศาสตร์บริการ โทรที่ 02-201-7000 โทรสาร 02-201-7466 หรือ http://www.dss.go.th อีเมลติดต่อ: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ในวันและเวลาราชการ

       วันที่ 28 -29 มิ.ย. 2565 ทีมนักวิทยาศาสตร์กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ได้รับเชิญจากสถาบันวิทยาลัยชุมชน กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นวิทยากรในงานประชุมเชิงปฏิบัติการการแปรรูปสมุนไพรขั้นต้น และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร ณ 111 รีสอร์ท แอนด์สปา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดชัยนาท มีการปลูกพืชสมุนไพรในครัวเรือนเป็นจำนวนมาก สถาบันวิทยาลัยชุมชน เล็งเห็นการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนด้วยการแปรรูปสมุนไพร จึงประสานงานกับกลุ่มวิจัยและพัฒนาสมุนไพร กองเทคโนโลยีชุมชน เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปสมุนไพร การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร เพื่อยกระดับองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายโดยดำเนินการครอบคลุมตั้งแต่การผลิต แปรรูป จนถึงการตลาด เป็นการส่งเสริมพัฒนาประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน ในการนี้ผู้ร่วมฝึกอบรม         ทั้ง 30 ราย ได้ฝึกปฏิบัติการเตรียมสมุนไพรขั้นต้น การสกัดสมุนไพร การผลิตลูกประคบสมุนไพร การผลิตขี้ผึ้งสมุนไพร และการผลิตน้ำมันนวดสมุนไพร
ผลจากการฝึกอบรมในครั้งนี้ประชาชนในพื้นที่สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรให้มีคุณภาพ และผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ส่งผลให้ประชาชนสามารถพึ่งตนเองและนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานรากที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

      วันที่ 27 มิถุนายน 2565 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) โดยนางวรรณี อู่ไพบูรณ์ ผู้อำนวยการกองผลิตภัณฑ์อาหารและวัสดุสัมผัสอาหาร เป็นประธานในพิธีและกล่าวต้อนรับ คณะนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขามนุษยนิเวศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ในหลักสูตรการฝึกปฏิบัติเสริมทักษะประจำภาคการศึกษาที่ 2/2564 ชุดวิชา 71304 วิชาชีวเคมีและจุลชีววิทยาของอาหาร และชุดวิชา 71205 เคมีและจุลชีววิทยาของอาหาร โดยมีนักศึกษาเข้าร่วมประมาณ 30 คน สำหรับการฝึกอบรมรุ่นที่ 2 จัดระหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายน 2564 ณ ห้องประชุม 320 ชั้น 3 อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ
      ทั้งนี้ คณะนักศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ได้เข้ารับการฝึกปฏิบัติและเสริมทักษะ ทั้งหมด 5 ห้องปฏิบัติการ ได้แก่ ห้องปฏิบัติการความปลอดภัยในอาหาร ห้องปฏิบัติการวัสดุสัมผัสอาหารของอาเซียน ห้องปฏิบัติการอาหารสุขภาพ ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาในอาหาร และห้องปฏิบัติการคุณภาพทางประสามสัมผัสในอาหาร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการศึกษากับเนื้อหารายวิชาที่เรียนของนักศึกษา รวมทั้งได้เรียนรู้จากนักวิทยาศาสตร์ที่ปฏิบัติงานโดยตรง อีกทั้งนักศึกษาได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติจริง ในห้องปฏิบัติการของ วศ. เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์และสามารถนำไปปรับใช้และต่อยอดในการเรียนและทำงานในอนาคตได้ต่อไป

       วันที่ 27 มิถุนายน 2565 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมีนางสาวปัทมา นพรัตน์ ผู้อำนวยการกองหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดกิจกรรมการจัดการความรู้ สท. เรื่อง สรรสาระกับจดหมายเหตุ โดยมีนางสาวอุดมลักษณ์ เวียนงาม นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ และนายนภดล แก้วบรรพต นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ เป็นวิทยากร ซึ่งมีบุคลากร วศ. เข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ 43 คน ณ พื้นที่จัดกิจกรรม/นิทรรศการ ชั้น 1 อาคารหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรมวิทยาศาสตร์บริการ
       ทั้งนี้ กองหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วศ. มุ่งสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของเอกสารจดหมายเหตุ และเพื่อพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้ ความเข้าใจถึงการศึกษาค้นคว้าข้อมูล เอกสารวิชาการที่เกี่ยวข้องเป็นการร่วมกันเสนอแนวคิด ขอบเขต แผนการดำเนินงาน ในเรื่องการจัดทำหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ไทย โดยการจัดทำ”คู่มือบริหารจัดการเอกสารจดหมายเหตุ” ผ่านคณะทำงานจัดทำจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ไทย ให้เป็นไปตามแผนการดำเนินการ และให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป