เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) โดยกลุ่มทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ กองความสามารถห้องปฏิบัติการและรับรองผลิตภัณฑ์ ได้รับการตรวจติดตามการรับรองผู้จัดกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17043 : 2010 ประจำปี 2565 จากหน่วยงานรับรอง Taiwan Accreditation Foundation (TAF) ประเทศไต้หวัน ขณะนี้ถึงกำหนดรอบเวลาในการตรวจติดตามการรับรองฯ (Surveillance) ในปี 2565 ผ่านระบบออนไลน์ Microsoft Team โดยมีนางวรรณี อู่ไพบูรณ์ ผู้อำนวยการกองความสามารถห้องปฏิบัติการและรับรองผลิตภัณฑ์กล่าวต้อนรับผู้ประเมิน Ms. Paochu Kao (Lead assessor จาก Taiwan Accreditation Foundation มีกำหนดการประเมินตาม ISO/IEC 17043 : 2010 ตามขอบข่ายที่ได้รับการรับรองด้าน Testing และ Calibration ทั้งหมด 22 กิจกรรม แบ่งเป็นสาขาอาหาร 4 กิจกรรม ดังนี้ รายการ Water – soluble chloride chlorides (as NaCl), รายการ Minerals (Ca, Cu, Fe, Mg, Mn, K, Na, Zn and P), รายการ Moisture Protein, Crude fat, fiber and Ash in feeding stuffs และ รายการ Moisture Protein, Ash, and pH-value in flour สาขาสิ่งแวดล้อม 6 กิจกรรม ดังนี้ รายการ pH – value in water, รายการ Total hardness (as CaCO3) and Chlorides (as Cl) in water, รายการ Heavy metals (As, Cd, Cr, Cu, Fe, Mn, Ni, Pb, Se and Zn) in water รายการ Total Suspended Solids (TSS) in water, รายการ Total Dissolved Solids (TDS) in water และรายการ Chemical Oxygen Demand (COD) in water สาขาเคมี 1 กิจกรรม คือ Hydrochloric acid (HCl) and Ethylenediaminetetraacetic acid (EDTA) และสาขาฟิสิกส์และสอบเทียบ 11 กิจกรรม Calibration of caliper, Calibration of micrometer, Calibration of gauge block, Calibration of dial gauge, Calibration of thickness gauge, Calibration of volumetric flask, Calibration of volumetric pipette, Calibration of thermo-hygrometer, Calibration of liquid in glass thermometer, Calibration of electronic balance, Calibration of weights
   

      ซึ่งประโยชน์ของการได้รับรองการเป็นผู้จัดกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17043 : 2010 เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับห้องปฏิบัติการที่เข้าร่วมโปรแกรมการทดสอบความชํานาญฯ

       กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มอบของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ประชาชน โดยลดค่าบริการทดสอบและสอบเทียบแบบปกติ 30% ทุกรายการ นาน 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2565 เพื่อสนับสนุนบริการทางวิทยาศาสตร์มอบให้ผู้รับบริการในภาคอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และประชาชนทั่วไป โดยเป็นกิจกรรมของขวัญสำหรับประชาชนในปีใหม่สอดคล้องตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

    นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เปิดเผยว่า วศ. มีบทบาทในการให้บริการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการที่ดี มีคุณภาพ โดยเฉพาะการบริการทดสอบและสอบเทียบ ที่มีความสำคัญเพื่อส่งถึงประชาชนคนไทย โดยลดค่าบริการทดสอบฯ แบบปกติทุกรายการ 30% เพื่อช่วยผู้ประกอบการลดภาระค่าใช้จ่ายช่วงโควิด-19 โดยให้บริการทางวิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์ ทดสอบ สอบเทียบ ที่ใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นพื้นฐานสำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ เสริมสร้างการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตลอดจนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกภาคส่วน เช่นภาคอุตสาหกรรม ชุมชน SMEs และประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ วศ. ได้จัดตลาดนัดสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและ SMEs เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 ณ บริเวณกรมวิทยาศาสตร์บริการ ถนนพระราม 6 โดยจะคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานที่กรมวิทยาศาสตร์บริการได้ให้คำปรึกษา ถ่ายทอดเทคโนโลยี และพัฒนากระบวนการผลิตมาจัดจำหน่ายเพื่อให้ผู้บริโภคได้อุดหนุนและนำไปเป็นของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้

      ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเช็ครายการทดสอบต่างๆ ได้ที่ http://onestop.mhesi.go.th/mstq/web/ โดยส่งตัวอย่างแบบปกติ ณ ศูนย์บริการ One Stop Service อาคาร ดร.ตั้วฯ กรมวิทยาศาสตร์บริการ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม และกรณีส่งตัวอย่างทางไปรษณีย์ กรมวิทยาศาสตร์บริการจะส่งใบแจ้งหนี้ในวันที่ได้รับตัวอย่างทางไปรษณีย์ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-201-7000 หรือ www.dss.go.th และ Facebook :DSSTHAISCIENCE ในวันและเวลาราชการ

       เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กองความสามารถห้องปฏิบัติการและรับรองผลิตภัณฑ์ โดยกลุ่มรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ เข้าประชุมหารือเรื่องขอบข่ายการดำเนินงาน (Term of Reference : TOR) โครงการตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการในรูปแบบ Peer evaluation ร่วมกับ ดร.อัณณ์ณิชา โตกิจกล้าธวัฒน์ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานการวิจัยและคณะ จากสถาบันพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ณ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

        23 ธันวาคม 2564 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) จัดกิจกรรม สนทนาประสา วศ.ครั้งที่ 212 เรื่อง “บทบาทองค์กรภาครัฐ กับการเรียนรู้และปรับตัวต่อสถานการณ์ภาวะโลกร้อน” โดย นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นประธานเปิดเวทีสนทนา และกล่าวต้อนรับผู้บริหารและวิทยากรจาก จากบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แก่ นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการผลิตและจัดส่งน้ำมัน และ ดร.เอนกประชา แก้วมณี ผู้จัดการส่วนนโยบายและแผนพัฒนาสิ่งแวดล้อม และทีมงาน โดยจัดกิจกรรมผ่านระบบ Zoom meeting มีบุคลากร วศ.ให้ความสนใจร่วมกิจกรรมจำนวน 115 คน ณ ห้องประชุมอัครเมธี ชั้น 6 อาคาร ดร.ตั้ว ลพานุกรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ
      นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวว่า กิจกรรมสนทนาประสา วศ. ครั้งนี้ มุ่งหวังให้บุคลากร วศ. เกิดความรู้ความเข้าใจภาพรวมเกี่ยวกับสถานการณ์ภาวะโลกร้อน และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนความพร้อมในการปรับตัวต่อสถานการณ์ เป็นการเรียนรู้จากภาคเอกชนที่มีภารกิจโดยตรงกับการแก้ไขปัญหาโลกร้อนดังกล่าว ซึ่งบริษัทบางจากฯ เป็นองค์กรดำเนินกิจการและธุรกิจด้านพลังงานหลากหลายรูปแบบที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้จากการเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำ (World Leaders Summit) COP26 ของนายกรัฐมนตรี เป็นการแสดงบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับประชาคมโลกในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยได้แสดงเจตจำนงในการยกระดับการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ด้วยทุกวิถีทาง เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ.2065
       ในส่วนของหน่วยงาน วศ. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ แม้ไม่มีพันธกิจโดยตรงในการบริหารจัดการฯ แต่เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลจึงควรมีส่วนร่วมในการสร้างองค์ความรู้ให้บุคลากรภายในองค์กรเข้าใจถึงความสำคัญของสถานการณ์ดังกล่าว จะได้นำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต