ข่าวประชาสัมพันธ์

(ข่าวที่ 333/2567) อธิบดีกรมวิทย์ฯ บริการ เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเปิดงานกาชาด ประจำปี 2567

470232942 998289682326685 1815682505568

470199576 998289795660007 2406535269234817428 n

 

            เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานกาชาด ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” ในการนี้ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยนางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง รักษาการในตำแหน่งรองปลัดกระทรวง อว. นายวันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) และคณะผู้บริหารในกระทรวง อว. เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ สวนลุมพินี เขตปทุมวัม กรุงเทพมหานคร
          ทั้งนี้ งานกาชาด ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00-22.00 น. วันสุดท้ายปิด 23.00 น. ณ สวนลุมพินี และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ www.iredcross.org ตลอด 24 ชั่วโมง โดยภายในงานได้มีการจัดบูธกิจกรรมจากหน่วยงานต่าง ๆ มากกว่า 200 หน่วยงาน โดยบูธกิจกรรมและนิทรรศการของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง อว. จะอยู่โซน A (ตรงข้ามศาลาจีน) ภายในบูธประกอบด้วยการโรงหนัง 9D โลกเสมือนจริง เครื่องเล่น VR ไฮเทค กล้องโทรทรรศน์ดูดาว การโชว์วิทยาศาสตร์สุดล้ำ และการแสดงดนตรีและศิลปะ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสอยดาว และกิจกรรมปาโป่งให้ประชาชนร่วมสนุกอีกด้วย

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 332/2567) ครม. มีมติให้ “กรมวิทย์ฯ บริการ” เป็นส่วนราชการต่อไปในกระทรวง อว. เร่งขับเคลื่อน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพระดับชาติ และนำวิทยาศาสตร์สู่การดูแลประชาชน

470050324 997

 

             วันที่ 11 ธันวาคม 2567 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตามนโยบายท่านรัฐมนตรีศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ที่ให้กรมวิทย์ฯ บริการ เป็นหน่วยงานหลัก รับผิดชอบและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพของประเทศ (National Quality Infrastructure (NQI)) ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและมูลค่าการส่งออกของประเทศ และให้กรมวิทย์ฯ บริการ ทำหน้าที่สำคัญในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่การดูแลประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย และส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชน รวมถึงการเป็นหน่วยรับรองคุณภาพมาตรฐานของห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ
             นพ.รุ่งเรือง อธิบดีกรมวิทย์ฯ บริการ กล่าวเพิ่มเติมว่า เช้าวันนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อยกเลิก มาตรา 38 ที่กำหนดให้เปลี่ยนสถานภาพกรมวิทย์ฯ บริการ จากส่วนราชการไปเป็นองค์การมหาชน ซึ่งการยกเลิกมาตราดังกล่าว จะทำให้กรมวิทย์ฯ บริการ ยังคงสภาพความเป็นส่วนราชการในกระทรวง อว. ต่อไป เนื่องจากประเทศยังจำเป็นต้องมีส่วนราชการที่ทำหน้าที่กำกับดูแล และให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ เป็นหน่วยให้การรับรองกำกับติดตามห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ และทำหน้าที่วิจัยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์สู่การดูแลประชาชน กรมวิทย์ฯ บริการมุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจตามนโยบายรัฐบาลและท่านรัฐมนตรีศุภมาส ในการทำงานเน้นตอบโจทย์ ตรงความต้องการประเทศชาติและประชาชน เพื่อความมั่นคงของชีวิต เศรษฐกิจ และการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่เป็นภาระด้านงบประมาณของประเทศ
             นพ.รุ่งเรือง อธิบดีกรมวิทย์ฯ บริการ กล่าวว่า ในนามบุคลากรกรมวิทย์ฯ บริการ ทุกคน ขอกราบขอบคุณคณะรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีศุภมาส ที่ให้การสนับสนุนและเห็นถึงความสำคัญของภารกิจด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลประชาชน ของกรมวิทย์ฯ บริการ และเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องมีส่วนราชการทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และกระทรวง อว. ที่สามารถดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชน หน่วยงานภาคประชาสังคม หน่วยงานท้องถิ่น และภาคประชาชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมวิทย์ฯ บริการ ได้พัฒนาปฏิรูประบบราชการ เช่น การปรับโครงสร้างภายในให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับภารกิจ จัดระเบียบองค์กรใหม่เป็น 10 สถาบัน เช่น สถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ สถาบันวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชุมชน สถาบันเทคโนโลยีดิจิทัลวิทยาศาสตร์บริการ สถาบันพัฒนานักวิทยาศาสตร์ เป็นต้น และสำนักวิทยาศาสตร์บริการเขต 12 เขต ครอบคลุมการดูแลในพื้นที่ทั่วประเทศ ยกระดับสู่ห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติด้วยระบบ AI ขยายเครือข่ายห้องปฏิบัติการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ กรมวิทย์ฯ บริการ มีความมุ่งมั่นในการนำวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และยกระดับความเป็นอยู่ของสังคมไทยในทุกมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยไม่จำกัดเพียงแค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการวางรากฐานองค์ความรู้ การเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในท้องถิ่น และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งกับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ชุมชนระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศ โดยตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา กรมวิทย์ฯ บริการ มีผลงานที่โดดเด่นอย่างมากทั้งในระดับชาติและนานาชาติ สามารถขับเคลื่อนผลงานด้านห้องปฏิบัติการจนได้อันดับที่ 5 ของโลกได้รับรางวัลผลงานวิจัยระดับเหรียญทองในระดับนานาชาติ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง เช่น การนำวิทยาศาสตร์สู่การดูแลประชาชน เพื่อให้เกิดการดูแลประชาชนเป็นอย่างดีด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และอาศัยกลไกสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลที่มีปัญหาน้ำดื่ม น้ำใช้ไม่ได้คุณภาพและไม่ปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและเด็ก ๆ ให้มีน้ำดื่มที่สะอาดมีคุณภาพและปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่ม และได้ตั้งเป้าหมายภายใน 2 ปี ทุกพื้นที่ของประเทศไทยจะมีน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาดและปลอดภัย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกล รวมไปถึงนำวิทยาศาสตร์ไปสู่การแก้ปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ เข้าร่วมศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม “อว. เพื่อประชาชน” เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังและรับมืออุทกภัย เพื่อความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยง ได้ยกระดับการทำงานโดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง พัฒนาภารกิจหน่วยปฏิบัติการ “ผู้พันวิทย์ อว.” ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ทำหน้าที่ตรวจสอบค้นหาความจริง เก็บตัวอย่าง พิสูจน์หลักฐาน และตอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ในพื้นที่ทั่วประเทศให้เกิดการแก้ไขปัญหาของประชาชน ทั้งในด้านคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายระดับชาติ ให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ได้ประสานงานกับห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ทำหน้าที่ “ศูนย์วิทยาศาสตร์บริการร่วม” ในทุกจังหวัดของประเทศ เช่น ศูนย์วิทยาศาสตร์บริการร่วมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อว. รวมถึงการจัดตั้ง “ศูนย์บริการให้คำปรึกษา อว. อย. และ สมอ.” ทั่วประเทศ ซึ่งเสมือนว่าประชาชนได้มาติดต่อ ที่ อย. และ สมอ. ในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับชุมชน ส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาให้ต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกต่างประเทศจากระดับพื้นที่
             นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำการนำประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับภูมิภาค ได้จัดตั้ง “สถาบันนวัตกรรมหุ่นยนต์และยานยนต์ไร้คนขับ” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และได้ลงทุนสร้างสนามทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (CAV Proving Ground) และเครื่องมือทดสอบที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ EECi วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เป็นสนามทดสอบระบบอัตโนมัติระดับ SAE AV Level 3-5 รองรับการทดสอบผลิตภัณฑ์ เสริมความปลอดภัย และการวิจัยพัฒนาทั้งหุ่นยนต์และยานยนต์ไร้คนขับ ขณะนี้กำลังขยายการลงทุนด้านอุปกรณ์การเชื่อมต่อ 5G Private Network เพื่อการทดสอบด้าน Connectivity อย่างเต็มรูปแบบ ที่สามารถจำลองสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมการเชื่อมต่อในทุกรูปแบบ ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการทดสอบยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติจากต่างประเทศก่อนที่จะสามารถนำรถมาทดสอบบนถนนจริงของประเทศไทย รวมไปถึงการศึกษา วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงในประเทศไทย และเป็นกลไกสำคัญในการลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร ด้วยระบบยานยนต์อัตโนมัติ
             กรมวิทย์ฯ บริการ ก่อตั้งมาเป็นเวลา 133 ปีและมีหน่วยงานต่างๆแตกออกไปเป็นองค์กรต่างๆทั้งรัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการ และองค์การมหาชนเป็นจำนวนมากมาย ในฐานะส่วนราชการ กระทรวง อว. ยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายในการยกระดับศักยภาพของประเทศด้วยระบบ NQI สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นส่วนสำคัญของการนำวิทยาศาสตร์สู่การดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 331/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ ส่งทีมผู้พันวิทย์ และเครื่องกรองน้ำดื่ม ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ มุ่งสร้างโมเดลเมืองน่าอยู่ น้ำดื่มสะอาดปลอดภัยครอบคลุมพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

85457474

470029590 997

 

             วันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2567 นางอาภาพร สินธุสาร ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชุมชน กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตามที่ท่านรัฐมนตรีศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ โดยสั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ท่านนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ จึงนำหน่วยปฏิบัติการ “ผู้พันวิทย์ อว.“ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาด้วยตนเอง เพื่อสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย และประเมินสถานการณ์รับมือให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ พบว่า ในสถานการณ์อุทกภัยมีปัญหาเรื่องน้ำดื่มที่ไม่สะอาดและมีการปนเปื้อน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคติดต่อทางเดินอาหาร โรคจากสารเคมีและสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนมากับน้ำ นั้น
            นางอาภาพร ผู้อำนวยการสถาบันฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมวิทย์ฯ บริการ ได้รับทราบข้อมูลจากเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พบว่ามีพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาคุณภาพน้ำดื่มอย่างเร่งด่วนหลังจากประสบอุทกภัย จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ โรงรียนในเขตเทศบาล (โรงเรียนเทศบาล 2,3,4,5) และชุมชนชุมชนศาลาลุงทอง ดังนั้นกรมวิทย์ฯ บริการ จึงเร่งส่งนักวิทยาศาสตร์ในหน่วยปฏิบัติการ “ผู้พันวิทย์ อว.” ลงไปติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มสะอาดซึ่งเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาของสถาบันฯ ร่วมกับกรมอนามัย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม นักเรียน ครู และประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้ทันต่อสถานการณ์และมีประสิทธิภาพอย่างดีที่สุด
             สำหรับเครื่องกรองน้ำดื่มของกรมวิทย์ฯ บริการ ได้มีการพัฒนาให้สามารถกรองสนิมเหล็ก ตะกอน กลิ่น คลอรีน หินปูนหรือความกระด้างในน้ำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ โดยผ่านท่อกรองบรรจุสารกรองสนิมเหล็ก ท่อกรองบรรจุถ่านกัมมันต์ ท่อกรองบรรจุเรซิน แล้วผ่านเข้าสู่ระบบกรองใสและระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวี ผลิตออกมาเป็นน้ำสะอาดและปลอดภัย ซึ่งเครื่องกรองน้ำนี้ สามารถกรองน้ำได้ถึง 500 ลิตรต่อชั่วโมง เป็นเครื่องกรองน้ำคุณภาพดี ประสิทธิภาพสูง
            โดย กรมวิทย์ฯ บริการ อว. จะดำเนินการวางแผนร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่และหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเครื่องกรองน้ำดื่มสะอาดให้ครอบคลุมพื้นที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีระบบน้ำดื่มคุณภาพสะอาดปลอดภัย ตามปณิธานกรมวิทย์ฯ บริการ อว.ที่ว่า “เรานำวิทยาศาสตร์ สู่การดูแลประชาชน” อย่างยั่งยืนตลอดไป

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 330/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ ร่วมงาน “วันต่อต้านการทุจริตสากล” ปลุกกระแสสังคม ไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ

469777148 995841565904830 1104791463575531921 n

 

            วันที่ 9 ธันวาคม 2567 กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยศูนย์กฎหมายวิทยาศาสตร์บริการ เข้าร่วมงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ประจำปี 2567 ร่วมกับหน่วยงานภายใน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ภายใต้แนวคิด “Fight against corruption สู้ให้สุด หยุดการโกง” เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำที่ร่วมกับภาคีทุกภาคส่วน มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างจริงจังต่อเนื่อง และปลุกกระแสสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ โดยมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีประกาศเจตจำนงในการต่อต้านการทุจริต และภาคีเครือข่ายร่วมแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการทุจริต ณ ฮอลล์ 7 อาคารศูนย์การประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
            ทั้งนี้ “วันต่อต้านการทุจริตสากล” หรือ “วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (International Anti-Corruption Day)” ถือกำเนิดขึ้นหลังจากที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ (The United Nation : UN) มีมติเห็นชอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต พ.ศ.2546 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546 จากนั้นประเทศภาคีสมาชิก จำนวน 191 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยได้เข้าร่วมลงนามในอนุสัญญา ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2546 ณ เมืองเมอริด้า ประเทศเม็กซิโก ด้วยเหตุนี้ องค์กรสหประชาชาติ (UN) จึงได้กำหนดให้ทุกวันที่ 9 ธันวาคม ของทุกปีเป็น “วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล”

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 329/2567) อธิบดีกรมวิทย์ฯ บริการ กระทรวง อว. “หมอรุ่งเรือง” ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่ง “ประธานมูลนิธิสุชาติ เจตนเสน“ มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาระบบสาธารณสุขและงานระบาดวิทยาภาคสนามเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาสาธารณสุขไทย

81190

425781668

14124329

 

          9 ธันวาคม 2567 จากการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิสุชาติ เจตนเสน ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มีชื่อเสียงในระดับชาติและนานาชาติได้ทำประโยชน์ในด้านการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคโดยใช้พื้นฐานวิชาระบาดวิทยาภาคสนาม ซึ่งมีส่วนสำคัญให้ระบบสุขภาพของประเทศไทยอยู่ในระดับ 1 ใน 5 ของโลก คณะกรรมการฯ มีมติเสนอชื่อนายแพทย์ รุ่งเรือง กิจผาติ อ ธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม อดีตศิษย์เก่าแพทย์ประจำบ้าน Inter FETP สาขาระบาดวิทยาภาคสนาม ภายใต้ความร่วมมือ ของกระทรวงสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก และ US CDC ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ พร้อมเสนอชื่อคณะกรรมการ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อุทิศตนให้กับงานระบาดวิทยาภาคสนามมาตลอดชีวิต ประกอบด้วย

1. นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการมูลนิธิ
2. ดร.นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการ
3. นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดำรงตำแหน่ง กรรมการ
4. นพ. ชนินันท์ สนธิไชย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือไทยสหรัฐเพื่อการป้องกันควบคุมโรค ดำรงตำแหน่ง กรรมการ
5. พ.อ.ดร.นพ. ภพกฤต ภพธรอังกูร ดำรงตำแหน่งกรรมการ
6. คุณเดช บัวคลี่ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเครือข่ายวิทยาศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์บริการดำรงตำแหน่ง กรรมการ
7. นพ. เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนา ระบบสุขภาพ (สำนัก 7) สสส. ดำรงตำแหน่งกรรมการและเหรัญญิก
8. นายวิชาญ บุญกิติกร ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ดำรงตำแหน่งกรรมการและเลขานุการ

            มูลนิธิสุชาติ เจตนเสน ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2545 โดยเจตนารมย์ของ เหล่าบรรดาลูกศิษย์และบุคคลที่เคารพรัก อาจารย์สุชาติ เจตนเสน ซึ่งท่านเป็นอาจารย์ระบาดวิทยาภาคสนามท่านแรกของประเทศ ที่อุทิศตน มุ่งมั่นพัฒนางานด้านระบาดวิทยาภาคสนาม เพื่อค้นหาความจริง เสนอแนวทางและข้อเสนอเชิงนโยบายในระดับประเทศและนานาชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขอย่างเป็นรูปธรรมตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง


            อาจารย์สุชาติ เจตนเสน เป็นอาจารย์ที่ลูกศิษย์ให้ความเคารพรัก ด้วยความเมตตาและรักลูกศิษย์ ท่านตั้งใจอบรมสั่งสอนให้ลูกศิษย์ทุกคนเป็นคนดี เป็นแพทย์ระบาดวิทยา อุทิศตนเพื่อให้ลูกศิษย์ได้ทำงานเพื่อเกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ ให้ประชาชนมีสุขภาพดี สามารถพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศให้มีความก้าวหน้า ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับโรคระบาดที่สำคัญได้เป็นอย่างดี เช่น โรคซาร์ส โรคเมอร์ส โรคไข้หวัดนก โรคไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก โควิด-19 โรคไม่ติดต่อ และอุบัติเหตุจราจร รวมถึงภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ได้รับความชื่นชมและยอมรับจากระดับนานาชาติ องค์การอนามัยโลก สำหรับประวัติของอาจารย์สุชาติ เจตนเสน ปรากฎ ตาม Link นี้ (ประวัติสุชาติ เจตนเสน https://ddc.moph.go.th/.../publish/1178320210917060626.pdf)

            นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิสุชาติเจตนเสน กล่าวว่า ผมและคณะกรรมการทุกท่านมีปณิธานอุดมการณ์ร่วมกัน ที่จะทำงานอุทิศตนเพื่อประเทศชาติและประชาชนในด้านสาธารณสุข ด้านระบาดวิทยาภาคสนาม เพื่อแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีแด่ อาจารย์สุชาติ เจตนาเสน การบริหารจัดการมูลนิธิ จะดำเนินการด้วยระบบธรรมาภิบาล มีความทันสมัยคล่องตัว และสร้างประโยชน์สูงสุดให้เกิดกับพี่น้องประชาชน เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดี ระบบสาธารณสุขมีความมั่นคงพึ่งตนเองได้

            สำหรับประวัตินายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ประธานมูลนิธิสุชาติ เจตนเสน…. นายแพทย์รุ่งเรือง เป็นบุตรนายวิญญูและนางอุไรวรรณ กิจผาติ สมรสกับ ผศ.ดร.ภญ.วรวรรณ กิจผาติ อาจารย์ประจำภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีบุตรสาว 1 คน ได้แก่ แพทย์หญิงศศิชา กิจผาติ แพทย์ประจำบ้าน สาขาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

            นายแพทย์รุ่งเรือง เข้าศึกษาคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระหว่างเป็นนักศึกษาแพทย์ได้รับรางวัลนักศึกษาแพทย์ดีเด่น และรางวัลนักศึกษาตัวอย่างด้านบำเพ็ญประโยชน์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อสำเร็จการศึกษาปี พ.ศ.2537 ได้เข้ารับราชการตำรวจที่งานพิสูจน์หลักฐานฯ สถาบันนิติเวชวิทยา กรมตํารวจ ในตำแหน่ง นพ.โท (ยศ ร้อยตำรวจเอก นพ.โท สารวัตร พิสูจน์หลักฐานฯ)

           ในปี พ.ศ. 2537-2540 ได้ปฏิบัติราชการตำรวจด้วยความอุทิศตน ทุ่มเท คุณหมอได้ทำคดีสำคัญระดับชาติและนานาชาติ สามารถพิสูจน์หลักฐานทางการแพทย์ ส่งผลให้ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีและได้รับการลงโทษประหารชีวิต เช่น คดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ คดีฆาตกรต่อเนื่องในหลายประเทศ แต่การรวบรวมพยานหลักฐานในประเทศไทยส่งผลให้ศาลอาญาประเทศสิงคโปร์ตัดสินประหารชีวิตฆาตกร ได้รับรางวัลตำรวจดีเด่นในการปฏิบัติราชการ จากสถานทูตแคนาดา จากกรมตํารวจ ประเทศสิงคโปร์ และตำแหน่งพยานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฯ ศาลอาญา ประเทศสิงคโปร์ ปี พ.ศ.2540 เข้ารับราชการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และศึกษาต่อแพทย์ประจำบ้านด้านระบาดวิทยาภาคสนาม (FETP)

           คุณหมอได้รับรางวัลบุคลากรดีเด่นจากการปฏิบัติราชการ รางวัล “คนดีศรีกรม” จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีผลงานสำคัญการสอบสวนโรค และผ่าพิสูจน์เก็บหลักฐานศพผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนกที่เป็นการติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นรายแรกของโลก ข้อมูลการพิสูจน์ส่งผลให้ รัฐบาลในขณะนั้นปรับเปลี่ยนนโยบายและมาตรการในการควบคุมไข้หวัดนกอย่างเข้มข้นเพื่อควบคุมการระบาดใหญ่ จนประสบความสําเร็จ

           ได้รับรางวัลพัฒนาระบบราชการและคุณภาพการให้บริการประชาชนระดับชาติ ในเรื่องการพัฒนาระบบประสานงานการตรวจวิเคราะห์และเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก และโรคติดต่ออุบัติใหม่ทางห้องปฏิบัติการ จากสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งผลงานเป็นส่วนสําคัญส่งผลให้เกิดความสําเร็จในการ ควบคุมการะบาดของโรคไข้หวัดนกขณะนั้น (ปี พ.ศ.2546 ถึง 2552) และพัฒนาระบบเป็นจนเป็นต้นแบบระบบห้องปฏิบัติการในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในปัจจุบัน ได้รับยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ

           ปี พ.ศ.2552-2561 ได้ดํารงตําแหน่งผู้บริหารระดับผู้อํานวยการในหน่วยงาน สําคัญของกรมควบคุมโรค อาทิ เช่น ผู้อํานวยการสํานักโรคติดต่ออุบัติใหม่ ผู้อำนวยการสํานักโรคติดต่อทั่วไป ผู้อำนวยการกองป้องกันควบคุมโรคด้วยวัคซีน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง

           ปี พ.ศ.2562-2566 ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่สำคัญ ได้แก่ (1) โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (2) หัวหน้าสำนักวิชาการสาธารณสุข (3) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงสาธารณสุข และ (4) รองหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวงสาธารณสุข

ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2567 ผลงานโดดเด่นสําคัญ เช่น
               – การจัดทําและขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ซึ่งเป็นการวางรากฐานการรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่ เช่น โรคไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่ โรคเมอร์ส โรคโควิด 19 ในปัจจุบัน
              – การจัดทําและขับเคลื่อน แผนยุทธศาสตร์ ทศวรรษกําจัดพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดี ส่งผลให้การแก้ไขและลดปัญหาโรคมะเร็งท่อน้ำดีอย่างเป็นรูปธรรม
              – การพัฒนาระบบด่านควบคุมโรคติดต่อ 68 แห่งทั่วประเทศ
              – การพัฒนาและขับเคลื่อนในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ปี พ.ศ.2556 ถึง 2559 ส่งผลให้เกิดความสำเร็จในการยอมรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ การบรรจุวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกและโรต้าไวรัสในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
              – เป็นผู้รับผิดชอบ “โครงการรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ 22 ล้านเข็มเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ส่งผลให้สามารถควบคุมโรคคอตีบประสพความสำเร็จ ไม่เป็นปัญหาในปัจจุบัน
             – ได้ปฏิบัติราชการเพื่อสนับสนุนโครงการพระราชดําริฯ การควบคุมโรคในถิ่นทุรกันดาร
ปี พ.ศ.2562 ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดํารงตําแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ระดับ 10) ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข เป็นและปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบหน่วยงานสำคัญ เช่น สํานักวิชาการสาธารณสุข ศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต IHPP, HITAP
            – ดำรงตำแหน่งโฆษกกระทรวงสาธารณสุขซึ่งได้รับการยอมรับจากสื่อมวลชนและประชาชน โดยเฉพาะการออกมาชี้แจงตอบโต้สถานการณ์ จนได้รับการยอมรับว่าเป็นโฆษกกระทรวงสาธารณสุขที่ดีสุดท่านหนึ่ง
            – รับผิดชอบศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการพัฒนาระบบในการดูแลประชาชน และทำหน้าที่เจรจา ควบคุมสถานการณ์การประท้วง การรับเรื่องร้องทุกข์ ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งจากผู้มาร้องทุกข์และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข
           – ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ MIU : MOPH Intelligence Unit กระทรวงสาธารณสุข ในจัดทําข้อเสนอเชิงนโยบายยุทธศาสตร์และมาตรการ ต่อผู้บริหารระดับสูง มีผลงานสําคัญในการรับมือสถานการณ์ และควบคุมโรคโควิด 19 เช่น
           – การปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ พัฒนาต้นแบบหน่วยปฏิบัติการเชิงรุก CCRT (Covid 19 Comprehensive Response Team) ทั้งการดูแลผู้ป่วยและส่งต่อ การให้วัคซีนโควิดเชิงรุกในพื้นที่เป็นครั้งแรกของประเทศ
           – การสร้างการมีส่วนร่วมจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชนในระดับพื้นที่ต้นแบบ ส่งผลให้เกิด ความสําเร็จในการควบคุมสถานการณ์ เริ่มจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขยายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

           ปี พ.ศ.2567 ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นผู้บริหาร ที่มีภาวะผู้นำและทักษะการบริหารที่สูงมาก ใช้เวลาเพียง 8 เดือน ได้พัฒนาปฏิรูปองค์กร กรมวิทยาศาสตร์บริการ จนมีผลงานโดดเด่นของกระทรวง อว. เช่น การขยายขยายการบริการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเป็น “ศูนย์วิทยาศาสตร์บริการร่วม” สร้างความร่วมมือกับสำนักคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และสามารถ เปิด ศูนย์ให้คำปรึกษาและบริการร่วมอย. & อว. ประชาชนสามารถรับบริการได้ที่กระทรวง อว. เช่นเดียวกับการไปรับบริการที่ อย. จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการ DSS เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ และลงปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในการนำวิทยาศาสตร์เพื่อมาค้นหาคำตอบจากปัญหาต่างๆ และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายหรือมาตรการเพื่อป้องกันแก้ไขต่อไป

            นอกจากนี้ยังมีผลงานโดดเด่น ในการนำวิทยาศาสตร์สู่การดูแลประชาชน เช่น ขับเคลื่อนโครงการน้ำดื่มน้ำใช้ปลอดภัยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกล การปฏิรูประบบราชการให้กรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นครั้งแรกในรอบ 133 ปี ให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย เช่น การจัดตั้งสถาบันระดับชาติ 9 สถาบัน การเปิดสำนักวิทยวิทยาศาสตร์บริการเขต และศูนย์วิทยาศาสตร์บริการร่วมครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานห้องปฏิบัติการไทย ให้อยู่ในอันดับ 1 ใน 10 ของโลก เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ดูแลสังคมสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตประชาชน รวมถึงเน้นการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน นำปัญหากลับมาวิเคราะห์แก้ไขด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม นพ.รุ่งเรือง เป็นผู้มีจิตใจเมตตา เป็นผู้นำที่ดูแลบุคลากรทุกระดับ จนได้รับการยอมรับจากทุกหน่วยงานที่เป็นผู้บริหาร... และล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2567 ได้รับรางวัลพ่อตัวอย่างแห่งชาติ

ดูรูปภาพเพิ่มเติมคลิก>>

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

  1. (ข่าวที่ 328/2567) กรมวิทย์ฯบริการ อว. เปิดตัว “สถาบันนวัตกรรมหุ่นยนต์และยานยนต์อัตโนมัติ” นำประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับภูมิภาค
  2. (ข่าวที่ 327/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ เชิญชวน ร่วมงาน ดนตรีในสวน : H.M. Song อว. บรรเลงเพลงของพ่อ" ประจำปี 2567 สนุกกับกิจกรรมทำพวงกุญแจ “DSS Ceramic Handcraft“
  3. (ข่าวที่ 326/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ ร่วมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
  4. (ข่าวที่ 325/2567) อธิบดีกรมวิทย์ ฯ บริการ กระทรวง อว. รับเกียรติบัตร “พ่อตัวอย่างแห่งชาติ” เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2567
  5. (ข่าวที่ 324/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ ร่วมงานแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลส่งความสุข “อว. บรรเลงเพลงพ่อ เคล้าคลอหมู่ดาว”
  6. (ข่าวที่ 323/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ พัฒนาศักยภาพนักวิทยาศาสตร์ สร้างมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยสู่เวทีโลก
  7. (ข่าวที่ 322/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ ร่วมส่งมอบผลิตภัณฑ์ สิ่งของจำเป็น ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้
  8. (ข่าวที่ 321/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ ร่วมแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี รมว.ศุภมาสฯ ตอกย้ำความสำเร็จการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจฯ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างภาคภูมิ
  9. (ข่าวที่ 320/2567) ส่งทีมผู้พันวิทย์ อว. กรมวิทย์ฯบริการ ติดตั้งเครื่องกรองน้ำ 500 ลิตร/ชม. ดูแลระบบน้ำดื่มสะอาดปลอดภัย ทั่วทุกพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้
  10. (ข่าวที่ 319/2567) กรมวิทย์ฯ บริการ ผนึกกำลังหน่วยงานในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตและดูแลประชาชนให้ก้าวสู่สังคมอัจฉริยะอย่างยั่งยืนด้วยวิทยาศาสตร์ ทั่วประเทศ