(ข่าวที่ 48/2567) วศ.อว. แจงผลตรวจคลองบางแพรกน้ำสีชมพู พบเชื้อแบคทีเรียเจือปน

F332 1 F332 4

F332 3 F332 2

 

           วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว (DSS Team) ได้รับสั่งการจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวง อว. ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาคุณภาพน้ำสีชมพูในคลองบางแพรกบริเวณหลัง big c สาขาติวานนท์ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์น้ำสีชมพูโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ (Compound light microscope) กำลังขยาย 600 เท่า พบว่ามีจุลินทรีย์สีชมพูอยู่จำนวนมาก สันนิษฐานว่าเป็นแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง (purple sulfur bacteria) ทำให้มองเห็นเป็นสีชมพู โดยแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วงเป็นแบคทีเรียแบบไม่ใช้ออกซิเจน มักพบในสภาพแวดล้อมของน้ำที่มีการแบ่งชั้น รวมถึงน้ำพุร้อน และแหล่งน้ำนิ่ง ซึ่งน้ำในคลองบางแพรกมีสภาพเป็นน้ำนิ่งเช่นเดียวกัน
           ดังนั้นเมื่อน้ำในคลองบางแพรกมีสภาพไร้อากาศ หรือมีความสกปรกสูงจึงเป็นสภาวะที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วงโดยจะใช้กรดอินทรีย์ในน้ำเสียและไฮโดรเจนซัลไฟด์เป็นอาหาร รวมทั้งใช้แสงแดดในการสังเคราะห์พลังงาน ซึ่งแนวทางแก้ไขออกซิเจนในคลองบางแพรกควรติดตั้งเครื่องเติมอากาศ หรือลดภาระความสกปรกในรูปของสารอินทรีย์ในคลองบางแพรก เช่น การควบคุมแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่ทิ้งลงคลองฯ ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกิจกรรมนั้นๆ และข้อแนะนำสำหรับประชาชน ห้ามนำน้ำในคลองดังกล่าวมาใช้อุปโภค บริโภค เด็ดขาด ให้ระวังการสัมผัสน้ำในคลอง หากมีการสัมผัส ให้รีบทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่ทันที
ซึ่งหลังจากนี้ วศ.จะร่วมประชุมกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบ และปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor