โดยที่เป็นการสมควรกำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) เพื่อให้การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของกรมวิทยาศาสตร์บริการ สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเดิม ประกอบกับมติของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖ จึงให้ยกเลิกประกาศกรมวิทยาศาสตร์บริการ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๔ และประกาศกำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) พ.ศ. ๒๕๖๖ ดังต่อไปนี้
กรมวิทยาศาสตร์บริการ ซึ่งต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า (“กรม”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับผู้รับบริการ ผู้มาติดต่อ ผู้ปฏิบัติงาน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกรม เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเชื่อมั่นได้ว่ากรมมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และรักษา (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดยกรม รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของกรม เพื่อให้การปฏิบัติงานของกรมเป็นไปตามกฎหมายมาตรฐานสากลในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม
นโยบายฉบับนี้มีขอบเขตการบังคับใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับกรมในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยกรม เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานในกรม คณะบุคคล พนักงานตามสัญญา หน่วยธุรกิจหรือหน่วยงานรูปแบบอื่นที่ดำเนินการโดยกรม และรวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของกรม (“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้การดำเนินงานและบริการต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดยกรม (รวมเรียกว่า “บริการ”)
บุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับกรมตามความในวรรคแรก หมายความรวมถึง:
นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว กรมอาจกำหนดให้มีประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของบริการนั้น
กรมดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของการดำเนินงานหรือบริการหรือกิจกรรมที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับกรมหรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรมเป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
กรมจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลสำหรับการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของกรม ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว โดยมีแหล่งที่มา และหลักการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
โดยทั่วไปแล้วกรมจะเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยการขอข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง แต่อย่างไรก็ตามอาจมีบางกรณีที่กรมเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานหรือบริการดังกล่าวข้างต้น ดังต่อไปนี้
นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่กรม ดังนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของการดำเนินงานหรือบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่กรม
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการดำเนินงานหรือให้บริการของกรมอาจเป็นผลให้กรมไม่สามารถดำเนินงานหรือให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
๕.๒.๑ กรมจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานหรือบริการตามข้อ ๔ ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น โดยกรมจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน หรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ กรมสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม:
ในกรณีที่กรมมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ข้อตกลง หรือคำรับรอง การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา ข้อตกลง หรือคำรับรอง หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้กรมไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
๕.๒.๒ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว กรมจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวในลักษณะดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ที่กรมกำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
๕.๒.๓ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ กรมได้คำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ที่กรมกำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรมมีวัตถุประสงค์และหลักการดำเนินการที่สอดคล้องตามข้อ ๕.๒ โดยกรมอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นอย่างจำกัด ให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอก เช่น:
กรมจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว กรมจะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาทการใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กรมขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
ในกรณีที่กรมมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ กรมจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศปลายทางดังกล่าวมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ประเทศปลายทางไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จะเป็นไปตามข้อยกเว้นตามหลักเกณฑ์ที่กรมกำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
กรมอาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของกรม ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะเดียวกันกับการจ้างทำของ
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น กรมจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของกรมในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่กรมมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมมอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของกรมเท่านั้น โดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล กรมจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างกรมกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
การดำเนินงานหรือบริการของกรมอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ กรมขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ กรมไม่มีความเกี่ยวข้อง และไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ ดังต่อไปนี้
อย่างไรก็ดี กรมอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตามหลักเกณฑ์ที่กรมกำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
การใช้สิทธิต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกิน ๑๐ ปี หรือเป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ การใช้สิทธิดังกล่าวจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ ที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ แล้วแต่กรณี
กรมจะจัดให้มีช่องทางเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังกรม เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ ในกรณีที่กรมปฏิเสธคำร้องขอข้างต้น กรมจะต้องแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
กรมจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีอำนาจ หรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของกรม
ในกรณีที่กรมให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแทนกรม เช่น การวิเคราะห์เชิงสถิติ กรมจะกำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการอื่นใด โดยไม่มีอำนาจ หรือโดยขัดต่อกฎหมาย
กรมอาจพิจารณาทบทวนและปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ของกรม https://www.dss.go.th/pdpa/ โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ อย่างไรก็ดีกรมขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอผ่านเว็บไซต์ของกรมข้างต้น หรือแอปพลิเคชัน หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่กรมดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่กรม
การเข้าใช้งานบริการของกรมภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่ ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้ โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายังกรมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
กรมได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่ากรมมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว กรมขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อมายังกรม เพื่อให้กรมมีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนในโอกาสแรก
หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของกรม หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
(๑) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ: กรมวิทยาศาสตร์บริการ
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ ๗๕/๗ ถนนพระรามที่ ๖ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
ช่องทางการติดต่อ: https://www.dss.go.th/pdpa/, info@dss.go.th
โทรศัพท์: ๐ ๒๒๐๑ ๗๒๕๒, ๐ ๒๒๐๑ ๗๒๕๔ และ ๐ ๒๒๐๑ ๗๐๐๐
(๒) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ ๗๕/๗ ถนนพระรามที่ ๖ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
ช่องทางการติดต่อ: DPO@dss.go.th
ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖
(นายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ)
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ