ข่าวประชาสัมพันธ์

(ข่าวที่ 75/2567) รัฐมนตรี “ศุภมาส” ชื่นชมความสำเร็จ วศ.อว. วิจัยพัฒนานวัตกรรมเซรามิก “แร่หินผุ” เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจชุมชนกว่า 1 พันล้านบาท ทดแทนแร่ดินขาวที่กำลังจะหมดไป

F460 2 F460 1

F460 3 F460 4

 

            เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กระทรวง อว. ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการผลิตตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาเศรษฐกิจและการกระจายรายได้โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในทุกมิติ สร้างโอกาสและลดความเลื่อมล้ำทางสังคม ด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับชุมชน ล่าสุดขอชื่นชมความสำเร็จของกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ที่ได้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเซรามิกจากดินโปร่งแสง “แร่หินผุ” ช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งจากเดิมอุตสาหกรรมเซรามิกของไทยมักใช้เป็นแร่ดินขาว ซึ่งขณะนี้ทรัพยากรกำลังจะหมดไปภายใน 10 ปีนี้ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซรามิกของไทย ดังนั้น วศ.อว. ได้ศึกษาวิจัยนำแร่หินผุ ที่เดิมไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์และไม่มีมูลค่า นำมาพัฒนาเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตเซรามิก โดยพบว่า แร่หินผุ นอกจากสามารถทดแทนดินขาวแล้ว ยังมีสมบัติโปร่งแสงและมีความพรุนตัวต่ำ ได้มีการนำมาพัฒนาเป็น โคมไฟและผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่งอื่น ๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เป็นความต้องการของลูกค้าต่างชาติ หากมีการเพิ่มกำลังผลิตและพัฒนาเสริมมูลค่าผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออกจะมีมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาทต่อปี
          นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กล่าวว่า วศ.อว. ได้เร่งดำเนินการตามนโยบายของ รมว.อว. ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชุมชนด้วยการพัฒนานำแร่หินผุมาใช้ทดแทนวัตถุดิบดินขาว โดย วิจัยและพัฒนานวัตกรรมการผลิตจากแร่หินผุและด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกิดการใช้ประโยชน์ของแร่หินผุให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่นำร่องจังหวัดลำปาง และขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ
          ทั้งนี้ วศ.อว. เป็นหน่วยงานที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเซรามิกให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานสากล และครบวงจรมากว่า 20 ปี ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และ วศ. ได้นำองค์ความรู้ด้านกระบวนการผลิตเซรามิกจากแร่หินผุไปถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับสมาคมเครื่องปั้นดินเผาและในระดับชุมชม เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาผลงานเซรามิกและคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน ซึ่ง วศ.อว. ได้ศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งกระบวนการผลิต การพัฒนาฝีมือแรงงาน งานดีไซน์ที่เน้นทั้งความสวยงามคุณสมบัติพิเศษของวัตถุดิบและการตลาดควบคู่กัน เพื่อส่งเสริมให้แก่ผู้ประกอบการในชุมชน
          นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า การขยายความร่วมมือของ วศ.อว. หลังจากที่วิจัยพัฒนาสำเร็จ กับสมาคมเครื่องปั้นดินเผา ทำให้เกิดการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สู่การพัฒนาสังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งจะมีการขยายผลสร้างความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เกิดความครอบคลุมเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 74/2567) รมว. “ศุภมาส” ให้ วศ.อว. พัฒนาอาหารชุมชนสู่อาหารแห่งอนาคต ล่าสุดพัฒนาอาหารจากเศษดักแด้หนอนไหมอีรี่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนสูง ปลอดภัย รสชาติอร่อย

F459 4 F459 2

F459 1 F459 3

 

            วันที่ 22 มีนาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ปัจจุบัน นวัตกรรม “อาหารแห่งอนาคต (Future Food)” ในตลาดโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก อีกทั้งประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก จึงได้มอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ขับเคลื่อนสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ด้วยการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสู่การพัฒนาองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารชุมชน สนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีโอกาสพัฒนานวัตกรรมอาหารในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างตรงความต้องการของตลาด และสามารถสร้างความได้เปรียบในตลาดภายในประเทศและตลาดโลก
           นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กล่าวว่า เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของ ท่านรัฐมนตรี อว. กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหารในเมืองนวัตกรรมอาหารเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคโดยการนำวัตถุดิบอาหารแมลงที่มีโปรตีนสูงและเป็นส่วนเหลือจากกระบวนการผลิตเส้นไหมมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพความปลอดภัย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนพัฒนาเทคนิคการวิเคราะห์ทดสอบคุณภาพให้ทันสมัย จะเป็นการผลักดันธุรกิจอาหารของประเทศให้เข้มแข็งเติบโตอย่างยั่งยืน
           ล่าสุด ทีมนักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการอาหาร วศ. ได้ร่วมมือกับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 5 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น ถ่ายทอดเทคโนโลยีกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวโปรตีนสูงจากหนอนไหมอีรี่ ให้กับผู้ประกอบการกลุ่มทอผ้าบ้านหนองหญ้าปล้อง อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยใช้โรงงานต้นแบบอาหารเพื่อให้ผู้ประกอบการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ฯ ไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวโปรตีนสูงจากหนอนไหมอีรี่ในเชิงพาณิชย์
           ทั้งนี้ จากนี้ทีมวิจัยฯ ได้ตั้งโจทย์ร่วมกับกลุ่มทอผ้าบ้านหนองหญ้าปล้องฯ ในการนำหนอนไหมอีรี่มาเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่เหมาะสมกับตลาดชุมชน ทางกลุ่มมีการเลี้ยงหนอนไหมอีรี่ทั้งชุมชน มีการผลิตดักแด้เพื่อนำมาทอเป็นผ้าไหมอีรี่ส่งขายตลาดภายในและต่างประเทศ แต่ในส่วนตัวดักแด้ที่เหลือจากการสาวไหมแล้ว มีปริมาณมากถึง 3-4 ตัน ต่อเดือน ซึ่งหนอนไหมอีรี่เป็นตัวดักแด้มีโปรตีนสูงถึงร้อยละ 70 จึงสามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารจำหน่าย ลดการตกค้างของตัวดักแด้จำนวนมาก
           ทีมวิจัยฯ ได้นำตัวดักแด้จากหนอนไหมอีรี่มาวิจัยพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวโปรตีนสูงจากหนอนไหมอีรี่ ผ่านกระบวนการประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสกับผู้บริโภค ในห้องปฏิบัติการทดสอบรสชาติอาหารไทย และทดสอบคุณภาพความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ในห้องปฏิบัติการทดสอบคุณภาพอาหาร ของ วศ. ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวโปรตีนสูงจากหนอนไหมอีรี่ที่มีคุณภาพความปลอดภัย รสชาติเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและเก็บรักษาไว้ได้นาน
           นายแพทย์รุ่งเรืองฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลงานดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการฯ ทั้งนี้ วศ. จะขับเคลื่อนสร้างความร่วมมือ ด้วยการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสู่การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารชุมชนให้เกิดความครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 73/2567) วศ.อว. เสริมองค์ความรู้บรรจุภัณฑ์ เพื่อการวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการ มุ่งเพิ่มรายได้ชุมชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

F458 3 F458 2

F458 4 F458 1

 

          วันที่ 20 มีนาคม 2567 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มอบหมายให้ นางสาวภัทริยา ไชยมณี รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นประธานเปิดกิจกรรมสนทนาประสา วศ. เรื่อง "รอบรู้ บรรจุภัณฑ์ เพื่อการคุ้มครองและแข่งขัน" โดยมี อาจารย์มยุรี ภาคลำเจียก ที่ปรึกษาสมาคมการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคมการพิมพ์ไทย และสถาบันพลาสติก เป็นวิทยากร มีบุคลากร วศ. และบุคลากรจากหน่วยงานภายนอกสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฯ ณ ห้องประชุมวิทยวิถี ชั้น 6 อาคารตั้ว ลพานุกรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ และผ่านระบบออนไลน์ กว่า 150 คน ทั้งนี้ วศ.อว. เป็นหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มุ่งให้ความสำคัญในการดูแลด้านคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนคนไทยในทุกมิติ จึงเล็งเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าว จะช่วยสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้องและทันสถานการณ์กับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ใน ปัจจุบันให้แก่บุคลากร ในการนำองค์ความรู้ไปใช้ประกอบการวิจัย พัฒนา วิเคราะห์ทดสอบ ถ่ายทอด เทคโนโลยีหรือการให้คำปรึกษาแนะนำทางวิชาการ รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ประกอบการ OTOP วิสาหกิจชุมชน SMEs และประชาชน
          ปัจจุบัน พฤติกรรมการบริโภคของประชาชนในสังคม มีทิศทางการเลือกซื้อสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากกว่าสินค้าที่พบได้ทั่วไป และยังเลือกสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังมีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตไปสู่มือของผู้บริโภค การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมยังเป็นการเพิ่มคุณค่า สร้างมูลค่า และส่งเสริมความสามารถให้สินค้าไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน รวมถึงสามารถก่อให้เกิดระบบนิเวศของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ดี ซึ่งอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทั้งในระดับครัวเรือน ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และประชาคมโลกได้

 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 72/2567) ด่วน! รมว. ”ศุภมาส“ สั่งการ “ทีม DSS” วศ.อว. ลงพื้นที่หาสาเหตุคลองน้ำเป็นสีชมพู พบแบคทีเรียซัลเฟอร์และพยาธิ…อื้อ

F457 4 F457 3

F457 2 F457 1

 

           วันนี้ 19 มีนาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้สั่งการด่วนระหว่างการประชุม ครม. สัญจรที่จังหวัดพะเยา ให้ทีมนักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว (DSS Team) กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. นำโดยนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดี วศ. พร้อมด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์ เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำสีชมพูในคูน้ำบริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 55 (ยัวซ่า) หมู่ที่ 5 ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาสาเหตุและให้ข้อแนะนำในการแก้ไขปัญหาโดยด่วน ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาธารณสุขจังหวัด เทศบาลตำบลบางปู เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในชุมชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำเป็นสีน้ำชมพูเกือบทุกวัน บางครั้งเห็นเป็นสีชมพูจากท่อ และได้กลิ่นเหม็นมาก

            นางสาวศุภมาสฯ รมว.อว. กล่าวว่า ภายหลังที่ได้ทราบข้อมูลเรื่องน้ำสีชมพูในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนทั้งปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม และได้รับรายงานจากทีม DSS วศ.อว. ว่าคูน้ำดังกล่าวมีระยะทางประมาณ 100 เมตร บริเวณใกล้เคียงเป็นชุมชนและโรงงาน ซึ่งน้ำเป็นสีชมพูและเข้มขึ้นขยายวงกว้าง จึงสั่งการให้ทีม DSS วศ.อว. ได้เร่งทดสอบในห้องปฏิบัติการอ้างอิงเพื่อนำข้อสรุปที่ได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่เร่งแก้ไขและเตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป
            นายแพทย์รุ่งเรือง อธิบดี วศ. กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทีม DSS วศ.อว. ได้ลงพื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน จากการสังเกตการณ์ในพื้นที่พบว่าคูน้ำมีน้ำเป็นสีชมพูชัดเจน ถ้านำไม้ไปคนเพิ่มเติมจะพบตะกอนสีชมพูที่อยู่ด้านล่างลอยขึ้นมาซึ่งจะทำให้น้ำมีสีชมพูเข้มขึ้น และมีสิ่งสกปรกสะสมในคูน้ำ หลังจากทำการทดสอบด้วยเครื่องวัดคุณภาพน้ำ พบว่า ความเป็นกรดด่างค่าปกติ แต่พบว่าน้ำไม่มีออกซิเจนละลายอยู่เลย จึงทำให้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ไม่ได้ เบื้องต้นได้นำน้ำสีชมพูมาส่องกล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 400 เท่า พบว่ามีแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วงจำนวนมาก รวมถึงไดอะตอม สาหร่ายสีเขียว และพยาธิในน้ำ
            ขณะนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำจัดสิ่งปฏิกูลที่อยู่ในท้องร่องออกไปก่อน และได้แนะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตั้งเครื่องเติมอากาศเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้เพียงพอต่อการนำไปใช้ย่อยสารอินทรีย์ในน้ำเสียได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างไปตรวจเพิ่มเติมในห้องปฏิบัติการ เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกด้านโลหะหนัก ตะกอน และเชื้อก่อโรค ฯลฯ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. ขอแจ้งเตือนประชาชนห้ามลงสัมผัสน้ำในคูน้ำ รวมถึงห้ามนำน้ำมาใช้อุปโภค บริโภคโดยเด็ดขาด หากมีการสัมผัสน้ำในคูให้รีบทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่โดยทันที

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

(ข่าวที่ 71/2567) วศ.อว. หนุนการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม ด้านการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการ มุ่งรับใช้ประชาชน

F456 1 F456 4

F456 2 F456 3

 

          เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐเป็นฟันเฟืองและกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นให้บริการประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความสุข มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้นข้าราชการจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นสําคัญ ตามคุณธรรมจริยธรรมของข้าราชการที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติไว้ ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ได้ประกาศข้อกำหนดจริยธรรมข้าราชการและบุคลากรกรมวิทยาศาสตร์บริการ เพื่อเป็นกรอบมาตรฐานในการปฏิบัติงานทั้งหมด 7 ข้อ ตามแนวทางนโยบายของท่านศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวง อว. ที่เน้นย้ำอยู่เสมอให้บุคลากรทุกระดับมีพฤติกรรมที่ถูกต้องดีงาม ยึดหลักธรรมทางศาสนา ตลอดจนมีการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิต อันจะนำไปสู่การเป็นองค์กรคุณธรรมอย่างยั่งยืน
          นายแพทย์รุ่งเรืองฯ กล่าวอีกว่า กรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นหนึ่งหน่วยรับรองระบบงานของไทยที่ให้บริการด้านการรับรองแก่ประชาชน มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาให้บุคลากรดำเนินงานภายใต้นโยบายและกฎระเบียบด้วยความถูกต้อง ยึดมั่นในจรรยาบรรณ ปฏิบัติงานด้วยความเป็นกลาง ความเสมอภาค เป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน ความกดดันทางด้านการค้า การเงิน และอิทธิพลต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของงานบริการ ดังนั้นจึงจัดสัมมนาเรื่อง “การส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ด้านการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการ” ให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการจำนวนกว่า 200 ราย เพื่อสร้างความตระหนักในคุณธรรม จริยธรรมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับรองระบบงานบริการประชาชนด้วยความถูกต้อง ความเป็นกลาง โปร่งใสและเท่าเทียม สอดคล้องตามมาตรฐานจริยธรรม อันแสดงถึงความมุ่งมั่นของ วศ. ที่จะเป็นแบบอย่างที่ดี มีคุณภาพ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์/ทีมงานโฆษก : กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เลขที่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวีกรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2201 7095-8 โทรสาร 0 2201 7470 e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

www.facebook.com/DSSTHAISCIENCE , www.facebook.com/ScienceDoctor

  1. (ข่าวที่ 70/2567) รัฐมนตรี “ศุภมาส” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวสู่ประเทศไทยยั่งยืน เพิ่มรายได้ชุมชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้ วศ.อว. เร่งรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์วัสดุจากธรรมชาติ ล่าสุด…ผ่านรับรองแล้ว 70 โมเดล
  2. (ข่าวที่ 69/2567) วศ.อว. แสดงความยินดีกับ 2 ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2566 เตรียมรับมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติ จากผู้บริหารระดับสูงกระทรวง อว. ในวันข้าราชการพลเรือน
  3. (ข่าวที่ 68/2567) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงทอดพระเนตรศูนย์ประกอบและทดสอบดาวเทียมแห่งชาติและความพร้อมของดาวเทียมธีออสสองเอ ก่อนนำส่งขึ้นสู่อวกาศในช่วงกลางปี 2567
  4. (ข่าวที่ 67/2567) รัฐมนตรี “ศุภมาส” ให้ วศ.อว. ผลักดันผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ล่าสุด “เฝือกขาจากยางพารา (Bio-Slab)” ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยสำเร็จแล้ว
  5. (ข่าวที่ 66/2567) ด่วน ! รมว. “ศุภมาส” ส่ง “ทีม DSS” วศ.อว. ลงพื้นที่ระยอง ตรวจพิสูจน์น้ำเปลี่ยนสี หวั่นกระทบคุณภาพชีวิตประชาชนและระบบนิเวศทะเลไทย
  6. (ข่าวที่ 65/2567) วศ.อว. จับมือสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ สร้างความร่วมมือทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์เคมี ร่วมจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ และดำเนินกิจกรรมภายใต้แนวคิด Green Chemistry
  7. (ข่าวที่ 64/2567) รัฐมนตรี “ศุภมาส” ยกระดับการก่อสร้างไทยและโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม ให้ วศ.อว. เปิดให้บริการห้องปฏิบัติการอ้างอิงรองรับตามมาตรฐานสากล
  8. (ข่าวที่ 63/2567) “รมว. ศุภมาส ห่วงใยปัญหาสิ่งแวดล้อม ให้ วศ.อว. เร่งสร้างความมั่นใจผลวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทั้งภาครัฐและเอกชนด้วยกิจกรรมทดสอบความชำนาญห้องปฏิบัติการ”
  9. (ข่าวที่ 62/2567) รัฐมนตรี “ศุภมาส” ห่วงใยเด็กและประชาชนพื้นที่ทุรกันดาร ให้ วศ.อว. ถ่ายทอดองค์ความรู้ เสริมทักษะยกระดับคุณภาพน้ำในพื้นที่ห่างไกล เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
  10. (ข่าวที่ 61/2567) รัฐมนตรี “ศุภมาส” ให้ความสำคัญนำวิทยาศาสตร์พัฒนาข้าวไทย ให้ วศ.อว. สร้างความร่วมมือกรมการข้าวเพื่อยกระดับการแข่งขันในเวทีโลก

Page 4 of 412